วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2564

ระบบสายลำเลียงและรถAGV

 ระบบสายลำเลียงและรถAGV

1.ระบบสายพานลำเลียง (Belt Conveyor) คือ อุปกรณ์ลำเลียง (Conveyor) ที่ใช้สายพาน (Belt) เป็นตัวนำพาวัสดุ ระบบสายพานลำเลียงทำหน้าที่เคลื่อนย้ายวัสดุจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง  หลังจากวัสดุหรือชิ้นงานผ่านกระบวนการตามขั้นตอนมา เมื่อมาถึงการขนย้ายหรือลำเลียงก็จะใช้ระบบสายพานลำเลียง (Belt Conveyor System) ในการเคลื่อนย้ายวัสดุหรือชิ้นงาน 










2. Automated Guided Vehicle หรือ AGV โดยในที่นี้ Quiktron AGV คือระบบขับเคลื่อนภายในอาคารโดยไม่ต้องใช้คน ที่ช่วยขนย้ายสินค้า อุปกรณ์ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
   รถ AGV ได้ถูกนำเข้ามาใช้ในคลังสินค้าจนได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะคลังสินค้าเป็นพื้นที่ที่มีความซับซ้อน ในแต่ละวันมีการนำเข้าและขนส่งสินค้าจำนวนมาก อีกทั้งยังมีประเภทของสินค้าที่หลากหลาย การจัดการในเรื่องตำแหน่งในการจัดวาง หรือการติดตามสถานะการขนส่ง ขั้นตอนเหล่านี้ การใช้คนเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เกิดความล่าช้าและโอกาสผิดพลาดสูง
   เทคโนโลยี AGV คือสิ่งที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งในคลังสินค้า เพราะหากเปรียบเทียบระหว่างการใช้แรงงานคนกับการใช้ AGV ในเรื่องของการขนย้ายวัสดุ/สินค้าในคลังสินค้าแล้ว ระบบอัตโนมัติ AGV สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และต่อเนื่องในชั่วโมงการทำงานที่มากกว่า ลดข้อผิดพลาดและปัญหาที่เกิดจากการใช้แรงงานคน
   ในปัจจุบัน AGV เป็นที่ยอมรับในตลาด E-Commerce อย่างกว้างขวาง ผู้นำด้านโลจิสติกส์ระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Amazon หรือ Alibaba ได้นำ AGV มาใช้ในการบริหารจัดการสินค้าในระบบคลังสินค้าอัจฉริยะเป็นจำนวนมาก
AGV ระบบขับเคลื่อนภายในอาคาร
AGV ระบบขับเคลื่อนภายในอาคาร
   และด้วยความสามารถในการขนส่งและลำเลียงสินค้าทำให้ Quiktron AGV สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานในไลน์การผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมได้อีกด้วย การนำระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยจัดการระบบคลังสินค้า หรือการขนส่งสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นทางเลือกที่ดีในการปรับตัวเพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่ง AGV สามารถตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้เป็นอย่างดี













หุ่นยนต์อุตสาหกรรม

หุ่นยนต์อุตสาหกรรม


1. Play Back Robot เป็นหุ่นยนต์ทำงานตามชุดคำสั่งที่บันทึกไว้ โดยชุดคำสั่งการทำงานจะถูกบันทึกไว้ในเครื่องบันทึกความจำ ตัวอย่างเช่น ชุดคำสั่งเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนการทำงาน และการปรับตำแหน่ง เป็นต้น ชุดคำสั่งดังกล่าวจะถูกเรียกออกมาสั่งให้หุ่นยนต์ทำงานตามที่ได้บันทึกไว้ การบันทึกความจำนั้นนิยมใช้วิธีสอนให้หุ่นยนต์ทำงาน

โดยผู้สอนจับมือหุ่นยนต์ให้ทำงานตามที่ผู้สอนต้องการ สมองหุ่นยนต์จะบันทึกข้อมูลได้ เมื่อสอนเสร็จหุ่นยนต์จะทำงานเลียนแบบที่เรียนมานั้นได้










2.หุ่นยนต์เชื่อม

หนึ่งในหุ่นยนต์สำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตของไทย เนื่องจากอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์มีการใช้หุ่นยนต์ประเภทนี้สูง

โดยหุ่นยนต์เชื่อมจะมีลักษณะเป็นแขนหุ่นที่มีส่วนปลายเป็นหัวเชื่อมเหล็ก มักทำงานร่วมกับระบบสายพานที่คอยส่งวัสดุเข้ามาในระยะ แขนหุ่นจะทำการเชื่อมวัสดุตามจุดต่างๆ โดยอัตโนมัติตามที่มีการตั้งค่าไว้ ซึ่งสามารถทำได้แม่นยำมากกว่ามนุษย์

ตัวอย่างเช่น Fanuc ARC Welding Robot ที่มีการออกแบบมาเพื่อการเชื่อมไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถรับน้ำหน้กได้ถึง 20 กก. และมีระยะเอื้อม 2 เมตร ใช้ได้ทั้งการเชื่อมไฟฟ้า เชื่อมเลเซอร์ บัดกรี หรืองานตัดประเภทต่างๆ








 

3.หุ่นยนต์ตรวจสอบความปลอดภัย

ยิ่งอุตสาหกรรมพัฒนามากขึ้น ความปลอดภัยก็ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นตาม งานหลายงานมีความเสี่ยงเกินกว่าจะให้มนุษย์ดำเนินการหรืออยู่ในจุดที่คนทั่วไปยากจะเข้าถึง ด้วยเหตุผลเหล่านั้นทำให้หุ่นยนต์ตรวจสอบความปลอดภัยโรงงานเข้ามามีบทบาท เช่น

  • - ตรวจสอบสารพิษที่รั่วไหลในโรงงาน เนื่องจากหุ่นยนต์สามารถเข้าไปในที่ๆ คนเข้าไม่ถึงโดยไม่ต้อง สวมชุดป้องกันได้
  • - ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ด้วยอินฟาเรดหรืออุปกรณ์ตรวจจับอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีไฟฟ้ารั่วไหล
  • - ตรวจสอบปล่องควันหรือจุดที่อยู่สูง ทำให้ไม่ต้องมีการปิดโรงงานทั้งโรงเพื่อซ่อมบำรุง
  • - ตรวจสอบวัสดุในโรงงาน เช่น หุ่นยนต์ตรวจสอบความหนาของถังสารเคมี  

ซึ่งหุ่นยนต์ทั้งหมดก็มีตั้งแต่ทำงานแบบอัตโนมัติ ไปจนถึงทำงานโดยมีคนควบคุมอยู่เบื้องหลัง














วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2564

เครื่องจักร NC เครื่อง CNCเครื่องจักร DNC

เครื่องจักร NC

เครื่องจักรNC ย่อมาจาก Numerical Control หมายถึงการควบคุมการทำงานของเครื่อง NC ด้วยคำสั่งเชิงตัวเลขและตัวอักษรที่ถูกสร้างขึ้นมาในรูปของคำสั่งซึ่งก็คือ โปรแกรม NC. ระบบ NC ซึ่งนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1950 ซึ่งส่วนมากจะถูกนำมาใช้ในการควบคุมการทำงานของเครื่องมือกลเป็นส่วนใหญ่.

ในปัจจุบันระบบ NC จะถูกแทนที่ด้วยระบบ NC เกือบทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากว่าในระบบ NC ไม่มีคอมพิวเตอร์ เข้ามาช่วยในการทำงาน อีกทั้งเครื่องจักรที่ถูกควบคุมด้วย NC ก็ไม่มีการผลิตออกมาใช้งานแล้ว.

 

ระบบ NC มีส่วนประกอบที่สำคัญ 3 ส่วน คือ
       1.ชุดคำสั่ง (Programmed)
คือคำสั่งในแต่ละขั้นตอนเพื่อกำหนดให้เครื่องจักร NC ทำงานตามที่เราต้องการ โดยที่ชุดคำสั่งนี้จะถูกสร้างขึ้นในลักษณะของตัวเลข ตัวอักษรสัญลักษณฺ์ต่างๆ แล้วเก็บไว้ในเทปกระดาษที่เจาะรู เมื่อจะนำไปใช้งานก็จะใช้เครื่องอ่านเทปเพื่อแปลรหัสคำสั่งให้ทำงานตามขั้นตอน.
       2.หน่วยควบคุมการทำงานของเครื่องหรือเอ็มซียู (MCU : Machine Control Unit)

คือส่วนที่ทำหน้าที่อ่านและตีความหมายของคำสั่งเพื่อแยกคำสั่งออกเป็นสัญญาณไปควบคุมเครื่องจักรต่อไป ประกอบไปด้วยเครื่องอ่านเทปช่องส่งสัญญาณควบคุม(Control Output Signal) ระบบการตรวจสอบแล้วส่งผลย้อนกลับ(Feedback Transducer) และแผงควบคุม(Control Panel) สำหรับควบคุมการเปิด/ปิดเครื่องจักร NC
      3.เครื่องจักร NC(NC Machine Tool)
เป็นส่วนที่ใช้ในการขึ้นรูปชิ้นงานตามชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่เราเขียนขึ้น

 

วีดีโอการทำงานเครื่องNC













 

เครื่อง CNC




 CNC เป็นคำย่อมาจากคำว่า Computer Numerical Control หมายถึงการใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยควบคุมการทำงานเครื่องจักรกลอัตโนมัติต่างๆ เช่น เครื่องกัด เครื่องกลึง เครื่องเจาะ เครื่องเจียระไน ฯลฯ โดยการสร้างรหัส ตัวเลข สัญลักษณ์ หรือเรียกว่าโปรแกรม NC ขึ้นมาควบคุมการทำงานของเครื่องจักรกล   ซึ่งสามารถทำให้ผลิตชิ้นงานได้รวดเร็วถูกต้อง และเที่ยงตรง นับตั้งแต่ปีค.ศ. 1960 เป็นต้นมา เทคโนโลยีทางด้านไมโครโปรเซสเซอร์เข้ามามีบทบาทแทนที่หลอดสุญญากาศ และทรานซิสเตอร์ก็มีการพัฒนาจากเครื่องจักร NC มาเป็นเครื่องจักร CNC (Computer Numerically Controlled) และเครื่องจักร CNC ก็กลายเป็นพระเอกที่โดดเด่นเรื่อยมา เนื่องจากมีหน่วยความจำขนาดใหญ่สามารถบรรจุโปรแกรมการทำงานต่างๆ ได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีจอภาพแสดงผลแบบกราฟิกแสดงผลหรือจำลองการทำงานได้อีกด้วย ในการโปรแกรมข้อมูลเข้าไปยังตัวควบคุมเครื่องจักร (Machine Control) ซึ่งเรียกการควบคุมแบบนี้ว่าระบบ softwired โดยมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ แบบเก่าเป็นอุปกรณ์ที่สามารถจัดเก็บโปรแกรมได้

 

การทำงานCNC










 

เครื่องจักร DNC


        ดีเอ็นซี (DNC) Distribution Numerical Control คือระบบที่มีคอมพิวเตอร์กลางในการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนและกระจายข้อมูลซึ่งในที่นี้คือ โปรแกรมNC Data กับหน่วยควบคุม NC ของเครื่องจักรกลระบบ CNC แต่ละตัวได้เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริการข้อมูลทั้งรับข้อมูล และส่งข้อมูลจำเพราะให้กับเครื่องจักรกลระบบ CNC แต่ละเครื่องในเครือข่ายตามที่แต่ละเครื่องต้องการพร้อมๆ กันได้ในเวลาเดียวกัน     

 

การทำงานของเครื่อง DNC








รายชื่อ ห้อง B

 ลำดับ                   ชื่อ - สกุล                                URL                        รหัสนักศึกษา

                  อาจารย์ธภัทร ชัยชูโชค               อาจาย์ปาล์ม    

    1            นายศุภกร สังข์ทอง                           โอม                          636715027

    2            นายซิทดิคก์ เตาวะโต                       ดิคก์                          636715028

    3            นายณัฐสิทธิ์ อินคง                            จอม                          636715029

    4            นายฟาร์ฮัตร์ ง๊ะสมัน                        ฟาร์ฮัตร์                      636715030

    5            นายอุดมเลิศ แซ่ลี้                              โอ๊ต                         636715031

    6            นายจุฑา รอดอยู่                                  อัด                         636715032

    7            นายอารีฟีน มะ                                     ฟีน                         636715033

    8            นายนพดล มีแก้ว                                 เมฆ                        636715034

    9            นายอภิสิทธิ์ หลีหะรัน                           รีน                         636715035

   10           นายอามัล ยะระ                                   อามัล                     636715036

   11           นายฮาฟิซ เลาะแม                              เฮาะ                       636715037

   12           นายกิตติภณ ไชยมณี                          แจม                        636715038

   13           นายเพชรชล บุญศรีเพชร                    เบนซ์                      636715039

   14           นายซัลมาน หะยีหะซา                         เมา                        636715040

   15           นายมูฮำหมัดชารีฟ ดายอ                    ชารีฟ                     636715041

   16           นายอนุวัฒน์ เตะเส็น                             ซัน                        636715042

   17           นายอนิรุจธิ์ อิสอีด                                ฟารุจ                     636715043

   18           นายอนัส แวดือเร๊ะ                                จอน                      636715044

   19           นายอภิสิทธิ์ เจะหลง                             ดิส                       636715045 

   20           นายกิตติธัช สมชัย                                เจม                      636715046

   21           นายอิรฟาน ยีหมาด                              แฟ๊บ                     636715047

   22           นายเฉลิมชัย ยิ้มห้วน                            เจมส์                    636715048

   23           นายสุกฤษฎิ์ ดวงแข                             อ้วน                      636715049

   24           นายฮาฟีซี แดเม๊าะ                                ยี                         636715050

   25           นายอัฏฮา สิเดะ                                    ฮา                        636715051

   26           นายภานุพงศ์ ยิ่งขจร                            พุต                       636715052

วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564

บทความทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร 

 

Edge Computing 

 

 Edge Computing เป็นรูปแบบหนึ่งของ Cloud Computing ซึ่งเดิมที เราอาจคุ้นเคยกับคำว่า Cloud Computing กันอยู่บ้าง หากแต่โครงสร้าง Cloud แบบเดิมจะรวมการประมวลผลทุกอย่างอยู่บน Cloud และเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้ใน Data Center เพียงแห่งเดียว

 ในขณะที่ Edge Computing นั้น จะทำการประมวลผลข้อมูลที่อยู่ใกล้กับแหล่งข้อมูล หรือเรียกว่าประมวลผลตรงปลายทางหรือขอบของโครงข่าย (Edge of the Network) ซึ่งการประมวลผลแบบ Edge จะช่วยลดเวลาแทนที่ใช้ขนส่งข้อมูลไปกลับจากระบบ Cloud ให้มากที่สุด ในส่วนของความจำเป็นหลักที่ทำให้การประทวลผลอยู่ที่ต้น/ปลายทาง (Edge) ก็เพื่อเป็นการผลักภาระการประมวลผลข้อมูลไปยังอุปกรณ์ที่ Edge ของเครือข่าย โดย Edge สามารถประมวลข้อมูลได้จากอุปกรณ์หลายตัว และย่อส่วนข้อมูลลงอีกด้วย 


ข้อดีของ Edge Computing มีโดยคร่าว ดังนี้ 
  1. ลดเวลาในการรับส่งข้อมูล (Decreased Latency)
Edge Computing ช่วยสร้างความได้เปรียบด้านความเร็วในการรับส่งข้อมูล เนื่องจากข้อมูลจะไม่ต้องถูกโอนส่งไปยังศูนย์ข้อมูลก่อนแล้วค่อยตีกลับมาอีกครั้ง จึงทำให้ระยะเวลาการรับส่งข้อมูลสั้นลง (ปกติแล้วเวลาเครื่องมือสื่อสารกับเซิฟเวอร์ที่ห่างออกไป จะต้องส่งข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูลก่อนและรอคอยผลลัพธ์ในการเดินทางย้อนกลับ) 
  1. ประหยัดแบนด์วิธ (Bandwidth) และ เซิฟเวอร์ (Server)
เนื่องจากปัจจุบันทุกครอบครัวมีการใช้งานอุปกรณ์อัจฉริยะกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Smart Cameras, Printers หรือ Thermostats หากต้องส่งข้อมูลไปยัง Cloud พร้อมๆ กัน จะต้องใช้ Bandwidth จำนวนมหาศาลตามไปด้วย การใช้ Edge computing จะช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่มีระบบ AI อยู่ในอุปกรณ์นั้นสามารถประมวลผลข้อมูลในตัวได้เลย ส่งผลให้ประมวลผลบน Cloud ลงลง เนื่องจากเป็นการย้ายระบบประมลผลไปดูใกล้ต้น/ปลายทางแทน ดังนั้น Edge Computing จึงช่วยลดปริมาณการใช้งาน Bandwidth และ Server ลงได้
  1. ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy & Security)
ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเป็นประเด็นที่ทุกคนให้ความสำคัญ เช่น การเก็บข้อมูลลายนิ้วมือลงในอุปกรณ์ iPhone และ iPad ของ Apple นั้น ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ซึ่ง Apple ได้มีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องการเก็บข้อมูลลายนิ้วมือของผู้ใช้งาน ที่จะต้องจัดเก็บอยู่ในอุปกรณ์เท่านั้นและไม่สามารถนำข้อมูลลายนิ้วมือออกมาได้ ดังนั้น การที่ไม่จำเป็นต้องนำข้อมูลส่งออกไปจัดเก็บหรือประมวลผลที่อื่น จะช่วยให้การบริหารจัดการข้อมูลอยู่ที่จุดเดียว และช่วยในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลได้
  1. ฟังก์ชั่นการทำงานอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นมา
ฟังก์ชันการทำงานใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่น บริษัทต่างๆ สามารถใช้ Edge Computing ในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลที่อุปกรณ์ปลายทาง หรือ Edge ซึ่งส่งผลให้การวิเคราะห์และประมวลผลเหล่านั้นสามารถทำได้แบบ Real-Time 

ข้อเสียของ Edge Computing
1.       จากการที่มีทรัพยากรที่มาจากหลายแห่ง จึงอาจเกิดปัญหาด้านความต่อเนื่องและความรวดเร็ว
2.       ยังไม่มีการรับประกันในการทำงานอย่างต่อเนื่องของระบบและความปลอดภัยของข้อมูล
3.       แพลทฟอร์มยังไม่ได้มาตรฐาน  ทำให้ลูกค้ามีข้อจำกัดสำหรับตัวเลือกในการพัฒนาหรือติดตั้งระบบsite
4.       เนื่อง จากเป็นการใช้ทรัพยากรที่มาจากหลายที่หลายแห่งทำให้อาจมีปัญหาในเรื่องของ ความต่อเนื่องและความเร็วในการเข้าทรัพยากรมากกว่าการใช้บริการ Host ที่ Local หรืออยู่ภายในองค์การของเราเอง

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ประวัติส่วนตัว

ประวัติส่วนตัว






 

ชื่อ  นาย อนัส แวดือเร๊ะ รหัสนักศึกษา 636715044

ชื่อเล่น นัส 

เรียน คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมไฟฟ้า 2 ปีต่อต่อเนื่อง

โทรศัพท์ 062-2707083

ชื่อบิดา นาย มูหัมมัดอามีน แวดือเร๊ะ

มารดา  นางรุสณี แวดือเร๊ะ

มีพี้น้อง  ทั้งหมด 3 คนผมเป็นคนโต

จบจาก วิทยาลัยสารพัดช่าง

การแข่งขันประจำใจเมือง  ไม่มีวันซ้ำรอย

Facebook : จอห์น นอนเล่น

IG : nxxs.97s




 



ระบบสายลำเลียงและรถAGV

 ระบบสายลำเลียงและรถAGV 1.ระบบสายพานลำเลียง  ( Belt Conveyor ) คือ อุปกรณ์ลำเลียง ( Conveyor ) ที่ใช้สายพาน (Belt) เป็นตัวนำพาวัสดุ  ระบบสาย...